วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีประหยัดค่าประกันภัยรถยนต์

    หลายท่านซื้อประกันภัยรถยนต์ปีหนึ่งหลายหมื่นบาท หากมีหลายคันค่าใช้จ่ายยิ่งจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้านล่างนี้เป็นวิธีการลดค่าใช้จ่ายของคุณในแต่ละปี ในการซื้อประกันภัยรถยนต์ในราคาประหยัด
         
1.  ส่วนลดประวัติดี
ในแต่ละปีที่ท่านทำประกันไว้ ถ้ารถยนต์ที่เอาประกันภัยของท่านไม่เคยมีเคลมเลยในปีที่ผ่านมา หรือมีเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ท่านจะได้รับส่วนลดประวัติดี ตามลำดับขั้นในแต่ละปี สูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ ดังนี้
·         ขั้นที่ 1 ขับรถดีในปีแรก รับส่วนลด 20%
·         ขั้นที่ 2 ขับรถดี 2 ปีติดต่อกัน รับส่วนลด 30%
·         ขั้นที่ 3 ขับรถดี 3 ปีติดต่อกัน รับส่วนลด 40%
·         ขั้นที่ 4 ขับรถดีติดต่อกันตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป รับส่วนลด 50%

      หมายเหตุ
: หากท่านเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีจะลดลงทีละขั้น เช่นหากท่านมีประวัติดี 40 เปอร์เซ็นต์ และเป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง ส่วนลดก็จะลดลงเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ บางคนอาจจะ เข้าใจว่าหากเป็นฝ่ายผิดเพียงครั้งเดียว ประวัติดีจะหมายหมด ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด

2.ระบุชื่อผู้ขับขี่
    การประกันภัยรถยนต์ แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ สำหรับรถยนต์นั่ง รถยนต์โดยสาร ที่ใช้ส่วนบุคคล สามารถเลือกระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน   โดยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ ตั้งแต่ 5 - 20%
ช่วงอายุ
ส่วนลดเบี้ย
18 / 24 ปี
5%
25 35 ปี
10%
36 50 ปี
15%
50 ปีขึ้นไป
20%

3.  ความเสียหายส่วนแรก (Deductible)
     การทำประกันภัยรถยนต์แบบมี Deductible เป็นวิธีการที่ท่านเลือกรับความเสี่ยงภัยไว้เองบางส่วน ในกรณีที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุในละครั้ง ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้ส่วนหนึ่ง เช่น หากคุณซื้อค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่มเป็นจำนวนเงิน  2,000 บาท เป็นต้น คุณก็จะได้ลดเบี้ยประกันจากยอดเดิม อาจจะ 4,000 5,000 บาท แล้วแต่บริษัท แต่หากมีอุบัติเหตุ และคุณเป็นฝ่ายผิดคุณก็ต้องเสียเงินจำนวน 2,000 บาท/ครั้ง เพราะว่าว่าเงินตรงนี้เป็นการร่วมรับผิดกับบริษัทประกันฯ นั่นเอง

4.ส่วนลดกลุ่ม
     หากท่านมีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป ที่จดทะเบียนชื่อเดียวกัน จะได้รับส่วนกลุ่ม

5. สมัครตัวแทนเพื่อใช้เอง
     วิธีการสุดท้ายที่จะทำให้คุณซื้อประกันภัยได้ในราคาประหยัด นั่นก็คือการสมัครตัวแทน เพื่อซื้อในราคาทุน การสมัครตัวแทนมีอยู่หลายบริษัท เงื่อนไข และรายละเอียดก็จะแตกต่างกัน แค่นี้แต่อาจจะประหยัดค่าเบี้ยปีละ 2,000 5,000 บาทเลยก็ได้ สามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ http://www.tumprakan.com/02331
 6. ซื้อกับ http://www.tumprakan.com/02331 
ข้อดี ของการซื้อกับเราคือ  คุณจะได้ส่วนลดแรกเข้าทันที สำหรับประกันภัยทุกประเภท หรือหากซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เรามีบริการผ่อน 6 งวด 0%  หรือฟรี พรบ. โอนส่วนลดประวัติดีได้ถึง 50%




คัดลอกจาก http://www.tumprakan.com/02331
ซื้อ พรบ. และประกันภัยรถยนต์ ราคาถูกได้ที่ http://www.tumprakan.com/02331

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ความหมายของการประกันภัยรถยนต์


สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กระทรวงการคลัง

ความหมาย การประกันภัยรถยนต์มีผู้ให้ความหมายไว้หลายความหมาย ดังนี้

1. การประกันภัยรถยนต์ หมายถึง การที่บุคคลหนึ่งซึ่งในที่นี้ซึ่งเรียกว่า “ผู้เอาประกันภัย”ได้โอนความเสี่ยงภัยเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไปให้บุคคลไปให้ อีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “ผู้รับประกันภัย” รับเสี่ยงภัยแทนโดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้ รับประกันภัยเป็นการตอบแทนในการที่ผู้รับประกันภัยยอมเสี่ยงภัยนั้น ซึ่งเงินจำนวนนี้ เรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” เมื่อผู้รับประกันภัยยอมเสี่ยงภัยแทนผู้เอาประกันภัยแล้ว
หากรถยนต์คัน ที่เอาประกันภัยไว้ได้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวรถยนต์หรือแก่ชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลทั้งภายนอกและที่โดยสารอยู่ในรถยนต์คันนั้นผู้ เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เรียกว่า “ค่าสินไหมทดแทน”โดยผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เท่ากับจำนวน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้ ซึ่งเงินจำนวนเงินที่ตกลงทำสัญญาไว้ เรียกว่า“จำนวนเงินเอาประกันภัย” (หนังสือของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย )

2. การประกันภัยรถยนต์ หมายถึงการประกันภัยเพื่อคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ไม่ว่าจะเป็นเก๋งส่วนบุคคล
รถ บรรทุก รถโดยสาร และรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้แก่ ความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ได้แก่ ความเสียหาย บุบสลาย หรือสูญหายของตัวรถยนต์ นอกจากนี้ความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกายละทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้นด้วยโดยบริษัทหรือผู้รับประกันภัยจะ ออกหนังสือให้แก่ผู้เอาประกันภัยแต่ละรายเรียกว่า “กรมธรรม์ประกันภัย ” หรือหลักฐานของสัญญาประกันภัยซึ่งระบุว่าบริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ ขณะเดียวกันผู้เอาประกันภัยแต่ละรายก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ บริษัทประกันภัยตามอัตราความเสี่ยงของตน(หนังสือการประกันภัย บุษรา อึ๊งภากรณ์ )

การประกันภัยรถภาคบังคับ (Compulsory MotorInsurance)

หมาย ถึงการประกันภัยรถประเภทที่กฎหมายให้เจ้าของรถซึ่งใช้หรือมีรถไว้เพื่อใช้ ต้องจัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยโดยประกันภัยกับบริษัท ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการประเภทการ ประกันภัยรถ โดยรัฐบาลมีเจตจำนงเพื่อให้เกิดความคุ้มครองแก่ชีวิตร่างกายของประชาชนที่ ประสบภัยเป็นสำคัญ

การประกันภัยรถภาคสมัครใจเป็นการประกันภัยรถที่ กฎหมายไม่ได้บังคับขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้เอาประกันภัยที่เห็นถึงความ เสี่ยงภัยแห่งตนและมีความคิดที่จะกระจายความเสี่ยงภัยออกไปยังบุคคลอื่นคือ การประกันภัยไว้กับบริษัทผู้รับประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถเลือก ซื้อความคุ้มครองตามประเภทที่ผู้เอาประกันภัยประสงค์โดยบริษัทประกันภัยจะ ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ไว้เป็นหลักฐาน โดยมีความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นตามแบบที่นายทะเบียนให้ความเห็นชอบ

การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

การประกันภัยประเภท 1 (Comprehensive) บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน ดังนี้

   1. คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิตร่างกายบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัยด้วย
   2. คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
   3. คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
   4. คุ้มครองความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์

การประกันภัยประเภท 2 คุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ ตามข้อ 1) 2) และ 4)

การประกันภัยประเภท 3 คุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ตามข้อ 1) และ 2)

ที่มา http://www.gcc.go.th/gcc/index.php?option=com_content&view=article&id=26:2008-09-21-13-28-08&catid=5:faqs&Itemid=9

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ขาย พรบ. และประกันภัยรถยนต์ ราคาพิเศษ

ขาย พรบ. ราคาทุน เลือกบริษัท ได้ มีหลายบริษัทให้เลือก ดูได้ ที่ link นี้ http://www.tumprakan.com/02331 หรือโทรติดต่อ 0859042515



บริการประกันภัยรถยนต์ ครบวงจรการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
กฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับการขนส่งทางบกจะต้องมีการประกันภัยตาม พ.ร.บ. นี้ หากไม่ทำจะมีความผิดมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถเก็บรักษาหลักฐานแสดงการมีประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถไว้ให้พร้อมที่จะแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทุกเวลาที่ใช้รถ เว้นแต่กรณีรถคันดังกล่าวได้จดทะเบียนหรือชำระภาษีประจำปีแล้ว
***ในการจดทะเบียนรถหรือการชำระภาษีรถประจำปี เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งจะทำการตรวจสอบว่าได้มีการจัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ.)แล้ว จึงจะรับจดทะเบียนหรือชำระภาษีประจำปีได้
การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) นี้ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุรถยนต์ ทุกคนที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินถนน หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย รวมไปถึงทายาทของผู้ประสบภัยข้างต้น ในกรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต
การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ


1. กรมธรรม์ประเภท 1 ให้ความคุ้มครองมากที่สุด คือ
  1.1 ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
  1.2 ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  1.3 ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
  1.4 ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
* ในกรณีได้รับส่วนลดประวัติดี สามารถรับส่วนลดโดยมีหลักฐานประวัติดีแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งงาน
2. กรมธรรม์ประเภท 2 ให้ความคุ้มครอง..
  2.1 ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก  2.2 ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก  2.3 ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
3.  กรมธรรม์ประเภท 3 ให้ความคุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอก
  3.1 ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
  3.2 ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
      * อัตราเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 3
4. กรรมธรรม์ระเภท 4 ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  4.1 รับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 100,000 บาท/อุบัติเหตุแต่ละครั้ง
      * อัตราเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 4
5. กรมธรรม์ประเภท 5 แบบคุ้มครองเฉพาะภัย แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้
  • : ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
    : ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
    : ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์
    : ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก
      * ( กรณีที่ที่ชนกับยานพาหนะทางบกและเป็นฝ่ายผิดจะต้องเสียความเสียหายส่วนแรกต่อความเสียของตัวรถยนต์ผู้เอาประกันภัยไม่เกิน 2,000 บาท)
  • : ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
    : ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
    : ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก